ประชาชนมีหนังสือไปขอข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ ตอนแรกตอบว่าไม่ให้ ต่อมา
ตอบว่าไม่มี แล้วผู้ขอจะไปต่ออย่างไร มีโอกาสได้รับข้อมูลข่าวสารนั้นหรือไม่
นายแล้งเป็นประชาชนคนหนึ่ง มีหนังสือถึงเทศบาลตำบลศรีดอนชัย ขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการใช้น้ำในคลองสูบน้ำด้วยไฟฟ้าศรีดอนชัย รวม ๔ รายการ ได้แก่
- รายชื่อสมาชิกสูบน้ำทำนาปรังและนาปีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕ ๖๐
- รายงานการประชุมและรายชื่อคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมคลองสูบน้ำด้วยไฟฟ้าศรีดอนชัย
- รายชื่อผู้ทำนาปรัง และ
- รายชื่อผู้สูบน้ำในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓
ต่อมาเทศบาล ฯ มีหนังสือแจ้งปฏิเสธการเปิดเผยด้วยเหตุผลว่า นายแล้งไม่ได้เป็นสมาชิกคลองส่งน้ำศรีดอนขัย นายแล้งจึงมีหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลซ่าวสาร เหตุผลนี้ถูกต้องหรือไม่ ไปอ่านตอนจบนะครับ
ในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยฯ เทศบาลตำบลศรีดอนชัย มีหนังสือส่งข้อมูลไปประกอบการพิจารณาและชี้แจงว่า เทศบาล ฯ ไม่มีข้อมูลสมาชิกคลองสูบน้ำย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งได้ให้ผู้อำนวยการกองช่างค้นหาเอกสารแล้วแต่ไม่มี เนื่องจากขณะนั้นเทศบาลตำบลศรีดอนชัยยังมีสถานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล และแค่ละช่วงปีเกษตรกรชาวนาได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบริหารจัดการน้ำกันเอง ไม่ได้จัดระบบแบบราชการ เอกสารต่าง ๆ ค้นหายาก
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารตามที่นายแล้งมีคำขอทั้ง ๔ รายการ ในตอนแรกเทศบาลแจ้งปฏิเสธการเปิดเผย แต่ต่อมาชี้แจงต่อคณะกรรมการวินิจฉัย ๆ ว่า ไม่มีข้อมูลข่าวสารอยู่ในความครอบครอง จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานแจ้งยืนยันว่าเอกสารไม่มีอยู่ในความครอบครองก็กลายเป็นว่าไม่ใช่การปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ไม่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการวินิจฉัย ฯ ที่จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัย แต่หากนายแล้งไม่เชื่อว่าเทศบาลตำบลศรีดอนชัย ไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีคำขอจริง ๆ ก็สามารถใช้สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชคารตามมาตรา ๑๓ ประกอบมาตรา ๓๓ เพื่อให้ตรวจสอบได้ จึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
ขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับเหตุผลการปฏิเสธของเทศบาลที่ว่าผู้ขอไม่ได้เป็นสมาชิก หมายความว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนได้เสียนั้น มาตรา ๙ วรรคสาม ว่าอย่างนี้ครับ "บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม ย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดูขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งได้" และมาตรา ๑๑ วรรคห้า "ให้นำความในมาตรา ๙ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การจัดหาข้อมูลข่าวสารตามมาตรานี้โดยอนุโลม" ไม่ต้องสูบน้ำในคลองส่งน้ำนั้นไปใช้ ก็ขอข้อมูลข่าวสารได้ครับ หากมีขัอสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หารือไปได้ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ ๐ ๒๒๘๓ ๔'๖๗๘ เว็บไซต์ http://www.oic.go.th
(สด ๙๙/๒๕๖๒)
"ข้อมูลโปร่งใส ราชการไทยไร้ทุจริต"
****************************
วีระเชษฐ์ จรรยากูล
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ
บทความที่ ๑๖/๒๕๖๒